วันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2561

การเรียนการสอนครั้งที่ 3


วันอังคาร ที่ 23 เดือน มกราคม พ.ศ.2561


วันนี้อาจารย์ได้ขึ้น บทที่2 ทฤษฏีที่เกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กปฐมวั



ทฤษฎีพัฒนาการด้านจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์
ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmond Freud) 
เป็นนักจิตวิทยาชาวออสเตรียที่มีความเชื่อว่าพัฒนาการบุคลิกภาพของคนขึ้นอยู่กับการตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานทางด้านสรีระ หรือที่เขาเรียกว่าแรงขับโดยสัญชาติญาณ

โครงสร้างหลักของบุคลิกภาพ
อิด (Id) หมายถึง พลังหรือแรงผลักที่มีมาแต่กำเนิด เป็นสันดานดิบของมนุษย์ที่มีแต่ความต้องการสนองสนองแต่เพียงอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด ฟรอยด์เห็นว่าแรงผลักชนิดนี้มีอยู่ในทารก
อีโก้ (Ego) เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างบุคลิกภาพที่ได้มีการคิดรวบรวมข้อมูลต่างๆ และมีการวางแผน การรู้จักรอคอย ร้องขอหรืออื่น ๆ เพื่อให้ได้รับการตอบสนองในสิ่งที่ต้องการ
ซุปเปอร์อีโก้ (Superego) เป็นส่วนของบุคลิกภาพที่คอยควบคุมหรือปรับการแสดงออกของอิดและอีโก้ให้สอดคล้องกับเหตุผลความถูกผิด คุณธรรมหรือจริยธรรม

ทฤษฎีพัฒนาการด้านจิตสังคมของอีริคสัน
อีริค อีริคสัน (Erik H. Erikson) 
เป็นนักจิตวิทยา  พัฒนาการที่มีชื่อเสียงและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากมีแนวคิดว่าวัยเด็กเป็นวัยที่สำคัญและพร้อมเรียนรู้สิ่งแวดล้อมรอบตัว

ขั้นพัฒนาการตามทฤษฎีของอีริคสัน

ขั้นที่ 1 ความรู้สึกไว้วางใจ กับความรู้สึกไม่ไว้วางใจ(Trust versus Mistrust) ช่วงแรกเกิด – 1 ปี
ขั้นที่ 2 ความรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง กับความละอายใจและไม่แน่ใจ (Autonomy versus Doubt or Shame) ช่วง 1 – 2 ปี

ขั้นที่ 3 การมีความคิดริเริ่มกับความรู้สึกผิด (Initiativeversus Guilt) ช่วง 3 – 6 ปี



“ทฤษฎีพัฒนาการทางบุคลิกภาพของอีริคสันได้แสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องของการพัฒนาบุคลิกภาพของบุคคล ตั้งแต่ทารกจนถึงวัยสูงอายุทำให้เป็นแนวทางสำ คัญในการอบรมเลี้ยงดูเด็กโดยเฉพาะในวัยทารก ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของพัฒนาการในวัยต่อไป…”

ทฤษฎีวุฒิภาวะของกีเซล

อาร์โนลด์ กีเซล (Arnold Gesell) 
เป็นนักจิตวิทยาที่มีความเชื่อในเรื่องของความเจริญเติบโตตามวุฒิภาวะ โดยกล่าวว่า “วุฒิภาวะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

อย่างมีระเบียบ โดยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งเร้าภายนอก”

ทฤษฎีพัฒนาการด้านการรู้คิดของเพียเจท์
ฌอง เพียเจท์ (Jean Piaget)
 นักจิตวิทยาชาวสวิส ได้ทำการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กและพัฒนาการทางสติปัญญา

ทฤษฎีพัฒนาการด้านการรู้ของเพียเจท์
ขั้นที่ 1 ขั้นประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหว
(Sensorimotor Stage) อายุแรกเกิด – 2 ปี

ขั้นที่ 2 ขั้นก่อนการคิดอย่างมีเหตุผล (Preoperational Stage) อายุ 2 – 7 ปี แบ่งเป็นสองระยะ

- ระยะที่ 1 ขั้นก่อนความคิดรวบยอด (Preconceptual Thought) อายุ 2 – 4 ปี

- ระยะที่ 2 ขั้นคิดได้เองโดยไม่รู้เหตุผล (Intuitive Thought)อายุ 4 – 7 ปี


ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก
ลอเรนซ์ โคลเบิร์ก  (Lowrence Kohlberg) 
เป็นนักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ได้ศึกษาค้นคว้าทางด้านพัฒนาการทางจริยธรรม ซึ่งได้รับอิทธิพลความคิดและผลงานมาจากเพียเจท์

ขั้นพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบอร์ก
ระดับขั้นที่ 1 Premoral หรือ Preconventional
วัย 2 – 10 ปี
มี 2 ระยะ
ระยะที่ 1 การหลบหลีกการถูกลงโทษ ช่วงอายุ 2 – 7 ปี
ระยะที่ 2 การแสวงหารางวัล ช่วงอายุ 7 – 10 ปี

ทฤษฎีพัฒนาการทางความคิดความเข้าใจของ
บรุนเนอร์


เจอโรม บรุนเนอร์ (Jerome.S.Bruner) 
ได้เสนอทฤษฎีเกี่ยวกับพัฒนาการทางการคิดและใช้เหตุผล (Cognitive) โดยอาศัยแนวคิดของเพียเจท์เป็นหลัก

พัฒนาการทางความคิดความเข้าใจ เกิดจากสิ่งต่อไปนี้

1. การให้เด็กทำสิ่งต่างๆ อย่างมีอิสระมากขึ้น

2. การเรียนสัญลักษณ์ที่ใช้แทนสิ่งต่างๆ
3. พัฒนาการทางความคิด
4. ผู้สอนและผู้เรียนมีความสัมพันธ์กันอย่างมีระบบ
5. ภาษาเป็นกุญแจของการพัฒนาด้านความคิด
6. การพัฒนาทางความคิด

เมื่ออาจารย์สอนเนื้อหาจบ อาจารย์ก็ได้เปิดวีดีโอให้ดูเป็นวิธีการเลี้ยงดูที่แตกต่างกัน







ประเมิน
ประเมินอาจารย์        อาจารย์สอนสนุกเข้าใจง่าย
ประเมินเพื่อน            เพื่อนตั้งใจเรียน มาตรงเวลา
ประเมินตนเอง          ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน มาเรียนตรงเวลา



วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2561

การเรียนการสอนครั้งที่ 2



วันอังคาร ที่ 16 เดือน มกราคม พ.ศ.2561

การเรียนวันนี้อาจารย์ได้ให้ทำใบงานตอบคำถามตามความเข้าใจของเรา ก่อนที่จะเริ่มเข้าเนื้อหาการเรียน

 เมื่อทำใบการเสร็จอาจารย์ก็ได้พูดถึงเนื้อหาการเรียน บทเรียนที่ 1  นั้นก็คือ ทฤษฏีพัฒนาการกับเด็กปฐมวัย ก็จะมีทั้ง ความหมายของเด็กปฐมวัย ความสำคัญ ปัจจัยที่มีอิธิพลต่อพัฒนาการเด็กปฐมวัย      ดังภาพ

เด็กปฐมวัย หมายถึง เด็กที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปี  มีธรรมชาติที่อยากรู้อยากเห็น ช่างสงสัย ช่างซักถาม ชอบค้นคว้า สำรวจ อยู่ไม่นิ่ง ชอบอิสระเป็นตัวของตัวเอง เป็นวัยที่กำลังพัฒนาคุณภาพชีวิตทางร่างกาย อารมณ์สังคม และสติปัญญาอย่างเต็มที่

ความสำคัญต่อการพัฒนาเด็กปฐมวัย จำเป็นต้องได้รับการอบรมเลี้ยงดู และการเรียนรู้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับวัย ด้วยการจัดประสบการณ์และการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้เด็กได้พัฒนาตามศักยภาพของตน เพื่อให้เด็กปฐมวัยได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต เป็นคนดี คนเก่ง มีความสุข และเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีมีคุณภาพ สามารถดำรงวิถีชีวิตในสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจยุคใหม่ได้อย่างรู้เท่าทัน

พัฒนาการ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงของมนุษย์ที่เป็นไปอย่างมีลำดับขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาซึ่งมีความสัมพันธ์ระหว่าง เวลา วุฒิภาวะ การเรียนรู้ และสิ่งแวดล้อม อันส่งผลให้มนุษย์มีความสามารถและพฤติกรรมที่แตกต่างกัน และเป็นไปตามศักยภาพ

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการเด็กปฐมวัย
1. อาหาร
2. อากาศที่บริสุทธิ์และแสงแดด
3. เชื้อชาติ
4. เพศ
5. ต่อมต่าง ๆ ของร่างกาย
6. สติปัญญา
7. การบาดเจ็บและโรคภัยไข้เจ็บ
8. ตำแหน่งในครอบครัว

และวันนี้อาจารย์ก็ได้ให้ชมคลิปวีดีโอการปฏิสนธิ และการทำคลอด






ประเมิน
ประเมินอาจารย์     อาจารย์อธิบายถึงเนื้อหาได้ชัดเจนทำให้เข้าใจได้ง่าย
ประเมินเพื่อน         เพื่อนตั้งใจเรียนและตั้งใจทำงานตามที่อาจารย์สั่ง
ประเมินตนเอง       มาเรียนตรงเวลา และตั้งใจเรียน



วันอังคารที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2561

การเรียนการสอน ครั้งที่ 1


วันอังคาร ที่ 9 เดือน มกราคม พ.ศ.2561

การเรียนการสอนสำหรับวันนี้เป็นการเรียนวันแรกสำหรับวิชา การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย อาจารย์ได้อธิบายถึงการหัวข้อที่ต้องเรียนสำหรับวิชานี้ว่าเราต้องเรียนแบบไหน เรื่องอะไร และมีการทำกิจกรรมอะไรบ้างตลอดการเรียน และวันนี้อาจารย์ได้สั่งงานให้กลับมาทำคือ หาบทความเกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย เพื่อที่จะได้มานำเสนอในสัปดาห์ที่ 3



ใบแสดงการเข้าเรียนถ้าใครที่มาเรียนตรงเวลาก็จะได้ปั้มไก่ หากใครมาสายจะได้ปั้มเสือแทน




ประเมิน
ประเมินอาจารย์    อาจารย์อธิบายถึงเรื่องที่จะเรียนได้อย่างละเอียด
ประเมินเพื่อน        เพื่อนตั้งใจฟังในสิ่งที่อาจารย์ได้อธิบายให้ฟัง
ประเมินตนเอง      ฉันมาตรงเวลาเรียนและตั้งใจฟังอาจารย์อธิบาย